โรคเหงือกอักเสบ (โรคปริทันต์)

โรคเหงือกอักเสบ (โรคปริทันต์)

เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในช่องปากบางชนิด อธิบายง่าย ๆ คือ เมื่อแบคทีเรียไปเกาะติดบนผิวฟันจนเป็นคราบ  ที่เราเห็นเหมือนขี้ฟันนิ่ม ๆ สีเหลือง ๆ  แล้วไม่ได้รับการทำความสะอาดออกไป  หรือทำความสะอาดไม่หมด  แบคทีเรียพวกนี้ก็จะเพิ่มจำนวน และเพิ่มความแข็งแรงจนกลายเป็นเห็นปูนแข็ง ๆ  ซึ่งเราจะไม่สามารถแปรงออกได้ด้วยตัวเองแล้ว ต้องมาพบทันตแพทย์เพื่อขูดออก

ฤทธิ์เดชของหินปูนยังไม่หมดแค่นั้น หินปูนยังสามารถปล่อยแก๊ส และสารพิษออกมา ทำให้เกิดอาการบวม  แดง  อักเสบ  และมีเลือดออก หากหินปูนลามลงไปซ่อนตัวใต้เหงือก จะทำให้กระดูกเบ้าฟันละลาย เมื่อละลายถึงระดับหนึ่ง ฟันจะเริ่มโยก มีหนอง และมีอาการปวด  ซึ่งหากเป็นถึงระดับนี้การขูดหินปูนอย่างเดียวจะไม่สามารถรักษาให้หายได้  อาจจะต้องเกลารากฟันร่วมด้วย หรืออาจจะถอนฟันซี่นั้นไปหากไม่สามารถเก็บรักษาได้

การรักษาโรคเหงือก

1. ขูดหินปูน การขูดหินปูนที่เหมาะสม ควรขูดเป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง  (ทุก 6 เดือน)

2. เกลารากฟัน ในกรณีที่หินปูนลามลงไปใต้เหงือกแล้ว เราก็จำเป็นจะต้องตามลงไปขูดให้ถึงใต้เหงือกด้วย ในคนที่หินปูนยังไม่เยอะ หมอจะเกลารากฟันพร้อมกับการขูดหินปูนปกติให้อยู่แล้ว แต่ถ้าหินปูนเยอะมากและลงไปลึกมาก ๆ อาจจะต้องเกลาทีละซี่โดยใช้ยาชาช่วย เพื่อให้ระหว่างทำคนไข้จะได้ไม่เจ็บมากเกินไป

3. เปิดเหงือก เพื่อเกลารากฟัน อันนี้เรื่องใหญ่เลย เพราะหินปูนเยอะสุด ๆ จนเครื่องมือลงไปไม่ถึง หมออาจจะต้องเปิดเหงือกบริเวณนั้น แล้วทำความสะอาดอย่างละเอียด

วิธีการป้องกันการเกิดโรคเหงือก

1. แปรงฟันให้สะอาด วิธีง่าย ๆ แต่ทำยากมากเลย เราควรแปรงฟันอย่างถูกวิธี สม่ำเสมอ อย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง ตื่นนอน และก่อนนอน 

2. ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดซอกฟัน ที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง เช่น  ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน เป็นต้น

3. มาพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟันและขูดหินปูน

อาการที่พบได้หลังจากการขูดหินปูน

- มีเลือดออกระหว่างแปรงฟัน และ/หรือเสียวฟัน ในช่วงอาทิตย์แรก เนื่องจากเหงือกยังไม่หายสนิทดี อาการนี้จะหายไปได้เอง ควรแปรงฟันให้สะอาดตามปกติ

- มีอาการระบมเหงือกในช่วงแรก ให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาการนี้สามารถหายได้เอง ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังทำ

- เหงือกร่น เห็นเป็นสามเหลี่ยมสีดำ จะพบในคนที่ทิ้งหินปูนไว้นาน ๆ ทำให้มีการละลายของกระดูก อาการนี้จะไม่หายไป การรักษาด้วยการปลูกเหงือก ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นจึงควรป้องกันไม่ให้เหงือกร่น ด้วยการขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน

หากพบอาการเหล่านี้ หรือแตกต่างจากนี้สามารถสอบถามทันตแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อจะได้รับคำอธิบายที่ถูกต้อง เพื่อการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมหลังการรักษา